โรคสุกใส (chickenpox)

 

โรคสุกใส (chickenpox)

คณะกรรมการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อในโรงพยาบาล

เกิดจากเชื้อเกิดจากเชื้อไวรัสวาริเซลลา มีลักษณะอาการเป็นผื่นแดงราบ ตุ่มใส   ตุ่มหนอง กระจายตามใบหน้า  ลำตัว แผ่นหลัง และมีไข้

การติดต่อ

ติดต่อโดยการสัมผัสถูกตุ่มน้ำโดยตรงหรือสัมผัสถูกของใช้ เช่น แก้วน้ำ ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว ผ้าห่ม ที่นอน

ที่เปื้อนถูกตุ่มน้ำของคนที่เป็น อีสุกอีใส    หรือสูดหายใจเอาละอองของตุ่มน้ำ ผ่านเข้าทางเยื่อเมือกระยะฟักตัว 10-20 วัน

อาการ

เด็กที่เป็นจะมีไข้ต่ำ อ่อนเพลียและเบื่ออาหาร    ส่วนผู้ใหญ่มักจะมีไข้สูง มีอาการปวดเมื่อยตามเนื้อตัวคล้ายไข้หวัด         ขณะเดียวกันก็จะมีผื่นขึ้นพร้อมๆ กับวันที่เริ่มมีไข้ หรือ 1 วันหลังมีไข้   โดยในระยะแรกจะขึ้นเป็นผื่นแดงราบก่อน    ต่อมาจะกลายเป็นตุ่มนูน มีน้ำใสๆ และคัน ต่อมาอีก 2-3 วันจะตกสะเก็ด   ผื่นและตุ่มเหล่านี้จะขึ้นตามไรผมก่อนแล้วกระจายไปตามใบหน้าและลำตัว    แผ่นหลัง   บางคนจะมีตุ่มขึ้นในช่องปากทำให้ปากและลิ้นเปื่อย  จะเกิดอาการเจ็บคอ

บางคนอาจไม่มีไข้      มีเพียงผื่นและตุ่มขึ้นเท่านั้น   ผื่นจะขึ้นมากที่สุดที่ใบหน้าและลำตัว    เด็กวัยรุ่นและผู้ใหญ่มักจะมีอาการรุนแรงและมีตุ่มขึ้นมากกว่าเด็ก     โดยทั่วไปผื่นหายได้โดยไม่มีแผลเป็น    ยกเว้นมีเชื้อแบคทีเรียมาแทรกซ้อน  โรคนี้เมื่อหายแล้วมักจะมีเชื้อหลบอยู่ที่ปมประสาท ซึ่งอาจจะออกมาเป็น งูสวัดในภายหลังได้

เนื่องจากผื่นและตุ่มที่ขึ้นนี้จะค่อยๆขึ้นทีละระลอก    ไม่ขึ้นพร้อมกันทั่วร่างกาย    บางทีจะขึ้นเป็นผื่นแดงราบ บางทีขึ้นเป็นตุ่มน้ำใสๆ บางทีขึ้นเป็นตุ่มกลัดหนอง    และบางทีเริ่มตกสะเก็ด จึงทำให้คนสมัยก่อนเรียกโรคนี้ว่า อีสุกอีใส

อาการแทรกซ้อน

ที่พบบ่อยคือ การติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนบนผิวหนัง ทำให้กลายเป็นหนองและมีแผลเป็นตามมา ในบางรายเชื้อแบคทีเรียที่แทรกซ้อนอาจกระจายเข้าไปในกระแสเลือดทำให้เกิดภาวะโลหิตเป็นพิษและปอดบวมได้ ในผู้ใหญ่ที่มีภูมิต้านทานต่ำ เช่นได้รับยารักษามะเร็ง หรือ  สเตอรอยด์    เชื้ออาจจะกระจายไปยังอวัยวะภายในเช่น สมอง ปอด ตับ ได้

การรักษา

เนื่องจากเป็นโรคที่หายเองได้ โดยอาจจะมีไข้อยู่เพียงไม่กี่วัน ส่วนตุ่มจะตกสะเก็ดและค่อยๆหายใน 1-3 สัปดาห์ ผู้ป่วยจึงควรพักผ่อน และดื่มน้ำมากๆ   ถ้ามีไข้สูงใช้ยา พาราเซตามอล เพื่อลดไข้ได้  ไม่ควรใช้แอสไพริน เพราะอาจทำให้เกิดอาการทางสมองและตับ

ทำให้ถึงตายได้

ควรอาบน้ำและใช้สบู่ฟอกผิวหนังให้สะอาด  ควรตัดเล็บให้สั้น และหลีกเลี่ยงการแกะเกา เพราะอาจทำให้ติดเชื้อได้

ในรายที่คันมากๆ อาจให้ ยาแก้คัน เช่น คลอเฟนิรามีน ช่วยลดอาการคันได้ ในปัจจุบัน มียาที่ใช้ยับยั้งการเจริญเติบโตของไวรัส แต่ต้องใช้ในขนาดสูงและราคาแพงมาก นอกจากนี้จะต้องเริ่มใช้ภายในวันแรก มิฉะนั้นอาจไม่ได้ผล หรือไม่ได้ผลดี

ที่มา : http://lms.thaicyberu.go.th/officialtcu/main/advcourse/presentstu/course/bm521/pantipa09_1/Virus/esukesai.htm